เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง ตอนที่ 1 งานเตรียมพื้นผิว

รูปภาพประกอบเอื้อเฟื้อโดย กลุ่มบริษัทผลิตภัณฑ์ SIKA ขอบพระคุณมากครับ

บทความที่ 4 แล้วครับ สำหรับ hometakecare ตอนนี้ผมเองก็รีบเขียนบทความในส่วนของ hardware และ เคมีภัณฑ์ ต่างๆ มาให้อ่านอย่างต่อเนื่องครับ แต่เหมือนเดิมนะครับ คือ ก่อนที่จะอ่านบทความของผมใครที่ยังไม่ได้อ่านในส่วนของ คอลัมน์ รู้จักกับ hometakecare กันหน่อย และ ก่อนจะริเป็นช่าง ผมอยากให้ไปอ่านก่อนครับ เพื่อที่จะได้เข้าใจและมองเนื้อหาของ blog ไปในทิศทางเดียวกับผู้เขียนครับ ส่วนคอลัมน์นี้ผมจะขอต่อในส่วนของ hardware และเคมีภัณฑ์ ในหัวข้อ เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง หรือ ที่เรียกว่า Construction Chemicals ต่อเลย ผมจะขอแบ่งแยกตามลักษณะการใช้งานดังนี้เลยนะครับ 1. งานเตรียมพื้นผิว 2. งานพื้นและงานปกป้องพื้นผิว 3. งานซ่อมแซมและงานเกราท์ ( comentitious / Non-shrink grout ) 4. งานกันซึมคอนกรีต ( waterproofing concrete ) 5. กาว และ วัสดุอุดรอยต่อ ( joint and sealing ) 6. น้ำยาและสารเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ
1.งานเตรียมพื้นผิว ในหัวข้อนี้ผมจะขอเขียนถึงวัสดุ 3 ชนิดหลักเท่านั้นนะครับ ได้แก่ 1.1วัสดุแต่งผิวสำหรับฉาบบาง ( product redenring ) 1.2 หมันโป๊วอะครีลิค หรือที่เรียกว่า Wall Putty 1.3 ปูนสำหรับฉาบบาง ( concrete redenring )
วัสดุแต่งผิวสำหรับฉาบบาง โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีลักษณะเป็นครีมไว้ใช้ผสมกับซีเมนต์หรือยิปซั่มครับ หลังจากผสมแล้วสีที่ได้จะขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาผสมครับ จะใช้สำหรับฉาบบางลงบนพื้นผิวคอนกรีตหรือปูนฉาบ โดยทั่วไปแล้วจะฉาบได้บางประมาณ 0.3 – 4 ม.ม.ครับ ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกครับแต่ต้องขึ้นอยู่กับเกรดและ brand ของวัสดุด้วยนะครับ ประโยชน์ของมันคือ แก้ไขข้อบกพร่องของพื้นผิว เช่น รูฟองอากาศ รอยแตกร้าวเล็ก ๆ รอยแตกลายงา หรือความหยาบของผิวทรายบนผนังปูนฉาบ แต่โดยทั่วไปแล้วช่างจะไม่ค่อยใช้กับบ้านทั่วไปหรอกครับ ถ้าเจ้าของบ้านไม่ระบุ ผมเคยคุยกับลูกค้า คือเค้าเป็นผู้รับเหมาอยู่ที่ภูเก็ตเค้าเล่าให้ตอนที่มาซื้อวัสดุแบบนี้ว่าคือหลังจากที่ทาสีไปแล้วลูกค้าต่างชาติจะไม่ยอมรับงานเลยครับเค้าบอกว่าผนังไม่เรียบร้อยแล้วก็ไม่ยอมจ่ายเงินครับ ต้องไปซ่อมงานให้ลูกค้าใหม่หลายรายเลยครับ เพราะที่ต่างประเทศหลังจากที่ฉาบเสร็จแล้วเค้าจะต้องใช้วัสดุแต่งผิวฉาบต่อก่อนทาสีน่ะครับถึงจะถือว่าเรียบร้อยครับ คือที่ผมเล่าให้ฟังเนี่ยคือจะบอกว่ามาตรฐานเรื่องงานก่อสร้างเนี่ยเรายังห่างไกลกับต่างประเทศเยอะครับ จริงๆราคาสินค้าไม่ได้แพงอะไรเลยครับ เพียงแต่ไปเพิ่มขั้นตอนการทำงานให้กับช่างเท่านั้นเองครับ ประโยชน์ของวัสดุประเภทนี้ก็คือหลังจากฉาบแล้วจะได้พื้นผิวที่เรียบเนียน ไม่มีเม็ดทราย พร้อมที่จะทาสีหรือทำการตกแต่งต่อไปหรือไม่ก็ใช้ในการแต่งเปลือยไม่ทาสีได้เหมือนกันครับ ผมจะขอให้คำแนะนำและข้อควระวังไว้หน่อยนะครับ คือ สำหรับงานแต่งเปลือยไม่ทาสีควรทดสอบสีที่ได้หลังจากผสมก่อนทำงานจริงครับ เพราะเพียงการใช้ซีเมนต์ที่ต่างยี่ห้อกันก็จะได้สีหลังจากผสมต่างกันครับ และไม่ควรทำงานกลางแดดจัดหรือบนพื้นผิวที่ร้อนเพราะจะทำให้วัสดุแห้งเร็วเกินไป ทำให้ทำงานไม่ทันและอาจเกิดรอยแตกร้าวเล็กๆได้ครับ วัสดุประเภทนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานแต่งผิวหรือฝ้าเท่านั้นครับ ไม่เหมาะกับงานพื้นครับ และหากว่าจะฉาบกับฝ้ายิปซั่มให้ใช้ผสมกับยิปซั่มเท่านั้นนะครับ วัสดุพวกนี้ไม่ได้มีคุณสมบัติในการขยายตัวเพราะฉะนั้นแน่นอนครับที่จะไม่เหมาะกับ รอยแตกร้าวที่ยังไม่หยุดขยายตัวหรือรอยต่อโครงสร้างที่ยังมีการเคลื่อนตัวครับส่วนการซ่อมแซมพวกนี้ผมจะอธิบายในหัวข้อของ งานซ่อมแซมและงานเกราท์ครับ ค
เรามาต่อกับหมันโป๊วอะครีลิค หรือที่เรียกว่า Wall Putty กันเลยนะครับเพราะกลุ่ม Construction Chemicals รายละเอียดค่อนข้างเยอะน่ะครับเยอะจนผมโม้มากไม่ได้ 555 หมันโป๊วอะครีลิค หรือที่เรียกว่า Wall Putty จะมีลักษณะเป็นครีมข้นสีขาวพร้อมใช้งานครับใ ช้งานง่ายใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกครับ แห้งเร็ว เวลาใช้ห้ามผสมน้ำครับ ประโยชน์ของวัสดุตัวนี้ก็คือใช้โป๊วอุดรอยแตกร้าว รอยต่อ ใช้โป๊วบนวัสดุได้ค่อนข้างหลากหลายครับ ไม่ว่าจะเป็น คอนกรีต อิฐชนิดต่างๆ ไม้ หลังจากแห้ง(ประมาณ 1-2ชั่วโมง ) สามารถทาสีทับได้ครับ ข้อควรระวังจะเหมือนกับวัสดุเตรียมพื้นผิวนะครับ คือห้ามใช้ในที่ตอ้งแช่น้ำตลอดเวลา เช่น ถังเก็บน้ำ และก็ไม่เหมาะกับรอยแตกร้าวที่ยังไม่หยุดขยายตัวครับ และเทคนิคเวลาโป๊วรอยแตกร้าวหรือรูที่มีขนาดใหญ่ให้โป๊วเป็นชั้นๆครับแล้วทิ้งให้แต่ละชั้นแห้ง ก่อนโป๊วอีกชั้นจนเต็มครับ

ปูนสำหรับฉาบบาง วัตถุประสงค์ในการใช้วัสดุตัวนี้จะเหมือนกับการใช้วัสดุแต่งผิวสำหรับฉาบบางเลยครับเพียงแต่เราใช้ปูนสำหรับฉาบบางแล้วเราก็ไม่ต้องไปใช้วัสดุแต่งผิวสำหรับฉาบบางอีกเท่านั้นเองครับเพราะหลังจากฉาบงานที่ได้ก็จะออกมาคล้ายกันเพียงแต่จะเรียบน้อยกว่าเท่านั้นเองครับ แต่ห้ามใช้กับยิปซั่มนะครับกลัวผู้อ่านบางท่านจะเข้าใจว่าใช้ได้เหมือนกัน ในส่วนของคำแนะนำและข้อควรระวังก็จะเหมือนกับวัสดุอื่นๆในกลุ่มนี้นะครับ เดี๋ยวก่อนจบเกือบลืมบอกไปว่าคอนกรีตหรือปูนฉาบใหม่ต้องทิ้งให้แห้ง3-7วันก่อนนะครับ
ในที่สุดก็จบจนได้ครับกับหัวข้อ งานเตรียมพื้นผิว ถ้าตรงไหนไม่เข้าใจหรืออยากจะสอบถามก็ฝากความคิดเห็นไว้แล้วกันน่ะครับ ถึงผมไม่รู้ผมก็จะไปหาค้นคว้าหาคำตอบมาให้พี่ๆและเพื่อนๆจนได้ครับ แล้วพบกันใหม่คราวหน้ากับหัวข้อ งานพื้นและงานปกป้องพื้นผิว นะครับ
columm by York cat2sc